เวอร์จิล ฟาน ไดค์ พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับลิเวอร์พูลเมื่อเดือนมกราคม 2018 และปัจจุบันดำรงตำแหน่งกัปตันทีม

นักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่แข็งแกร่ง ผู้ที่อ่านเกมได้อย่างสวยงาม ร่วมกับทักษะด้านร่างกายที่โดดเด่น ช่วยให้หงส์แดงคว้าถ้วยรางวัลใหญ่ๆ มากมายมาจนถึงปัจจุบัน

เขาลงเล่นทุกนาทีของฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2019-20 ในขณะที่ลิเวอร์พูลปิดฉากการรอคอยแชมป์ลีกได้อย่างยิ่งใหญ่และน่าประทับใจด้วยคะแนน 99 คะแนน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของสโมสร

ฟาน ไดค์ เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในแนวรับอย่างต่อเนื่อง และยังยิงได้ถึง 5 ประตู รวมถึง 2 ประตูสำคัญที่ทำได้กับไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และประตูเปิดสนามที่แอนฟิลด์เหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกด้วย

ในฤดูกาลประวัติศาสตร์นี้ ยังได้เห็นการเพิ่มถ้วยรางวัล UEFA Super Cup และ FIFA Club World Cup เข้าไปในตู้เก็บถ้วยรางวัลอีกด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

ก่อนหน้านี้ หมายเลข 4 เคยเป็นบุคคลสำคัญของหงส์แดงที่คว้าแชมป์ถ้วยยุโรปสมัยที่ 6 ได้สำเร็จในช่วงท้ายฤดูกาลเต็มแรกของเขากับสโมสร

ชัยชนะเหนือท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ในมาดริดทำให้ฟานไดค์คว้าแชมป์แรกให้กับลิเวอร์พูลได้สำเร็จ หลังจากที่เขาพลาดลงเล่นพรีเมียร์ลีกเพียงแค่ 35 นาทีในฤดูกาล 2018-19 ช่วยให้ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ จบอันดับสองด้วยคะแนน 97 คะแนน

เขาเป็นกำลังสำคัญในแนวรับของทีมหงส์แดงที่เอาชนะบาเยิร์น มิวนิค ไปได้ – ซึ่งเขาก็ทำประตูได้ในเกมนัดที่สองที่เยอรมนี – เช่นเดียวกับเอฟซี ปอร์โต้ และเอฟซี บาร์เซโลน่า ที่เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน

และยังมีการไถ่โทษในการแข่งขันครั้งนี้เมื่อฟาน ไดค์และเพื่อนร่วมทีมฟื้นจากความพ่ายแพ้ต่อเรอัล มาดริดเมื่อปีที่แล้วและเอาชนะสเปอร์สไปได้ 2-0 และชูถ้วยรางวัลที่เอสตาดิโอเมโทรโปลิตาโน

ฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นของนักเตะชาวดัตช์ตลอดทั้งฤดูกาลทำให้เขาได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA จากเพื่อนร่วมอาชีพและยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีกอีกด้วย

เซ็นเตอร์แบ็กรายนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเขาในการรักษามาตรฐานความสม่ำเสมอในระดับสูงสุดระหว่างครึ่งฤดูกาลแรกกับหงส์แดง ซึ่งเริ่มต้นด้วยชัยชนะเหนือเอฟเวอร์ตันที่แอนฟิลด์ และจบลงด้วยการพ่ายแพ้ต่อเรอัลที่เคียฟ

ก่อนหน้านี้ ฟาน ไดค์ สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในพรีเมียร์ลีกกับเซาธ์แฮมป์ตัน หลังจากเคยค้าแข้งกับวิลเลม ทเว, เอฟซี โกรนิงเก้น และเซลติก

ในช่วงสัปดาห์แรกของฤดูกาล 2020-21 เขาได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าอย่างรุนแรงในเกมพบกับเอฟเวอร์ตัน ซึ่งต้องเข้ารับการผ่าตัดและทำกายภาพบำบัดตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล

แต่กองหลังรายนี้กลับมาได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2021-22 โดยเซ็นสัญญาระยะยาวฉบับใหม่ และลงเล่น 51 นัดจาก 63 นัดของลิเวอร์พูลในทุกรายการ ช่วยให้พวกเขาคว้าถ้วยคาราบาว คัพ และเอฟเอ คัพ มาได้ ขณะเดียวกันยังจบอันดับสองในพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย

ฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของฟาน ไดค์ได้รับการยอมรับจากการที่เขาได้รับเลือกให้ติดทีมแห่งปีของ PFA Premier League และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ประจำปี 2022 ซึ่งเป็นรางวัลที่เขาได้รับเลือกให้คว้าอันดับสองเมื่อสามปีก่อน

ภายหลังจากจอร์แดน เฮนเดอร์สันออกจากทีมในเดือนกรกฎาคม 2023 ฟาน ไดค์ กัปตันทีมเนเธอร์แลนด์ก็ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ของหงส์แดง

คว้าแชมป์มาครองได้เป็นฤดูกาลแรกของเขากับปลอกแขนกัปตันทีม โดยหมายเลข 4 โหม่งทำประตูชัยเมื่อลิเวอร์พูลเอาชนะเชลซีในรอบชิงชนะเลิศคาราบาวคัพปี 2024